รีวิว The Peripheral (2022) ท่องมิติพลิกโลก

The Peripheral เป็นซีรีส์แนวไซไฟที่สร้างโดย Scott B. Smith ดัดแปลงจากฉบับนิยาจากผลงานเขียนของ William Gibson ออกฉายทาง Amazon Prime Video จำนวน 8 ตอน ความยาวตอนละประมาณ 50 นาที ออกฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 เล่าเรื่องราวของสาวพนักงานขนส่งสินค้าที่ร้านแห่งหนึ่ง ที่พบกับชายลึกลับที่เข้ามาเสนองานให้เล่นเล่นเกมผ่านเครื่องวีอาและเข้าไปทำภารกิจให้สำเร็จแล้วจะได้เงินรางวัลที่เธอต้องการ

เล่าเรื่องราวของเฮย์เลอร์ พนักงานขนส่งสินค้าในวอเตอร์ฟอร์ด รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เธอได้พบกับไคล์ ชายลึกลับที่เข้ามาเสนองานให้ โดยให้ใช้อุปกรณ์เล่นเกมวีอาที่เรียกว่า Peripheral ในการเข้าไปเล่นเกมเสมือนจริงในโลกคู่ขนานที่เรียกว่า The Loop ต่อมาไคล์พบว่าโลกคู่ขนานเมต้าเวิร์สแห่งนี้อยู่ในช่วงปี 2048 ซึ่งเป็นยุคที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ สงคราม และความเหลื่อมล้ำทางสังคม เฮย์เลอร์จึงตัดสินใจใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองในความช่วยเหลือผู้คนในโลกคู่ขนานให้ได้

นี่คือซีรีส์ที่มีเนื้อหาที่เข้มข้น ล้ำลึก ชวนให้ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว แถมยังได้รับชมฉากแอ็คชั่นแบบจัดเต็มมากๆ เราจะได้เปิดโลกไปกับตัวละครหลักของเรื่อง ที่ต้องเข้าไปทำภารกิจภายในโลกเมต้าเวิร์สภายในเกมสุดสมจริง ทำให้นึกถึงเรื่องดังอย่าง Ready Player One และถือว่าเป็นการต่อยอดได้สนุกมากยิ่งขึ้น แม้จะใช้พล็อตเรื่องที่เคยมีคนทำมาแล้วก็จริง แต่ในรูปแบบของเรื่องนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว ปริศนาและปมต่างๆ ที่เราจะได้เจอไปพร้อมๆ กับเฮย์เลอร์ดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ จนแทบจะหยุดดูไม่ได้เลยทีเดียว

เรื่องนี้ถือว่าเล่นกับการนำเสนอแบบเมต้าเวิร์ส หรือโลกแห่งเกมที่ใช้วีอาร์ได้สนุกไปอีกขั้น แปลกใหม่และถือว่าดีมากที่นำเสนอในแนวทางแบบนี้ ซึ่งไม่ได้เหมือนกับเรื่องก่อนๆ ไปซะทีเดียว ต้องขอชื่นชมจริงๆ ส่วนความเข้มข้นของเรื่องราวนั้นก็ไม่ต้องพูดถึง สามารถจัดเรียงลำดับของแต่ละตอนได้อย่างดี เหมือนคิดมาแล้วว่าวางแต่ละฉากไว้ในตอนนี้จะต้องทำให้คนดูหยุดดูต่อไม่ได้ ส่วนงานภาพ กราฟฟิกซีจีต่างๆ นั้นก็ทำออกมาได้สมจริง ดูเรียลมาก บทพูดและการแสดงก็ออกมาดีครบเลย ต้องชื่นชมตัวนักแสดงที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีเหมือนกัน

สำหรับใครที่อยากหาหนังไซไฟสนุกๆ มีเรื่องราวที่น่าติดตาม ลองรับชม The Peripheral ท่องมิติพลิกโลก นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อยากให้คุณได้มาลองรับชมกัน เสียดายที่มีเพียงแค่แปดตอนเท่านั้น ค่อนข้างสั้นไปหน่อย และเหมือนว่าตอนจบของตอนสุดท้ายเหมือนจะมีทิ้งไว้ให้รับชมต่อในซีซั่นถัดไปกันอีกด้วย ต้องมาติดตามดูกันต่อไป