รีวิว 57 Seconds (2023) 57 วิ ย้อนเวลาผ่าแค้น

57 Seconds 57 วิ ย้อนเวลาผ่าแค้น เป็นภาพยนตร์ไซไฟระทึกขวัญอเมริกัน กำกับและเขียนบทโดย Rusty Cundieff และ Cundieff นำแสดงโดย Josh Hutcherson และ Morgan Freeman ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องราว ลูซิเฟอร์ โดย E.C. Tubb ที่ได้แต่งเรื่องราวของการย้อนเวลาผ่านตัวละครอย่างไรอันมาแล้วในฉบับนิยายได้อย่างน่าสนใจอีกด้วย

สำหรับ 57 Seconds เล่าถึงเรื่องราวของ ไรอัน (แสดงโดย Josh Hutcherson) ชายหนุ่มที่ทำงานเป็นคนขับรถส่งอาหาร ที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและไร้จุดหมาย วันหนึ่งเขาบังเอิญได้รับแหวนปริศนาที่ช่วยให้สามารถย้อนเวลากลับไปได้ ไรอันจึงตัดสินใจใช้แหวนนี้เพื่อแก้แค้นคนที่ทำให้ชีวิตของเขาพังทลายเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ โดยไรอันเริ่มต้นด้วยการย้อนกลับไปในอดีตเพื่อขโมยเงินจากแก๊งอาชญากร เงินก้อนนี้จะช่วยให้เขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ จากนั้นจึงย้อนกลับไปในอดีตอีกครั้งเพื่อหยุดยั้งเหตุฆาตกรรมของแม่ของเขา ไรอันเชื่อว่าหากเขาสามารถหยุดยั้งเหตุฆาตกรรมนี้ได้ แม่ของเขาก็จะยังคงมีชีวิตอยู่

ไรอันใช้แหวนย้อนเวลาอย่างบ้าคลั่งเพื่อแก้ไขอดีต จนเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อทำให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้น แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาทำจะยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงเท่านั้น ไรอันเริ่มสูญเสียการควบคุมชีวิตของตัวเอง เขากลายเป็นคนเสพติดการย้อนเวลา และเริ่มตระหนักคิดได้ทีหลังว่าสิ่งที่เขาทำกำลังสร้างผลกระทบเชิงลบต่ออนาคตในที่สุด

ต้องบอกว่านี่คือภาพยนตร์ไซไฟระทึกขวัญที่เน้นความบันเทิงมากกว่าดูเอาสาระซีเรียสจริงจัง ตัวหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นที่ตื่นเต้นเร้าใจ และพล็อตเรื่องที่เต็มไปด้วยการหักมุม จนทำให้อาจไม่สมจริงมากนัก แต่ก็สามารถสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี ซึ่งทำให้มีกระแสนักวิจารณ์บางคนชื่นชมฉากแอ็คชั่นที่ตื่นเต้นเร้าใจ และพล็อตเรื่องที่เต็มไปด้วยการหักมุม แต่บางคนก็บอกว่าเป็นหนังที่ขาดความสมจริง และตัวละครบางตัวมีการพัฒนาที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล

ส่วนเรื่องของฉากแอ็คชั่น และงานภาพซีจีก็ต้องขอชมเชยว่าทำออกมาได้อย่างดี ให้ความเรียลและสมจริงสำหรับฉากแอ็คชั่นบู๊ต่างๆ ตลอดทั้งเรื่อง แม้ว่าจะมีบางช่วงที่ดูลอยๆ ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไรที่สามารถย้อนเวลาทำหลายๆ อย่างได้ตามใจ แต่ก็ต้องเข้าใจในเรื่องของหนังไซไฟที่จะฉีกกฎความเป็นจริงเป็นอย่างไรก็ได้นั่นเอง

โดยรวมก็ถือว่า 57 วิ ย้อนเวลาผ่าแค้น เป็นหนังแอ็คชั่นที่ให้ความมันส์เร้าใจ สนุกตื่นเต้น ลุ้นระทึกไปกับการทำสิ่งที่ตัวละครหลักอย่างไรอันต้องการให้สำเร็จให้ได้ และมีพล็อตหักมุมอยู่ซึ่งก็ถือว่าโอเคดีเหมือนกันว่าในส่วนนี้ ทำให้เหวอได้ไม่มากก็น้อย แต่อย่างไรก็ตามทางฝั่งของเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้ 33% จาก 100% ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างต่ำ แต่ถ้าใครชอบสไตล์ภาพยนตร์ไซไฟระทึกขวัญก็สามารถสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี